Tuesday, January 30, 2007

วิธีซ่อนมิเตอร์น้ำหน้าบ้าน(ทำไม)

10 January 2007
พี่แอ๊นท์ กับพี่อุ๋ย เขาจะนัดกันกินก๋วยเตี๋ยวไก่..
ประสาหนุ่มโสด เบื่อห้องพัก ก็เลยขอติดสอยห้อยตามเขาไปด้วย
สมน้ำหน้า....ก๋วยเตี๋ยวไก่ หน้าตึกธนิยะ หมด 555 อยากลงไปช้าเอง
เลยได้พากัน ระเห็จ (คำนี้น่าจะสะกดถูกนะเนี่ย) ไปกินตรงข้าง Bank กสิกร ฝั่งสุรวงศ์
ก๋วยเตี๋ยวไก่ อร่อยอ่ะ เนื้อไก่ตุ๋นเนี่ย
ดูดปรื๊ด ดูดปรื๊ด
เลยแหละ เสียอย่างเดียว ไม่ได้ double point ซะเนี่ยสิ

กินเสร็จเดินกลับ พี่เขาจะเดินดูของ..เราก็นะ 19.43 แล้วเนี่ย ยังจะเดินดูกันอีก สมกับความเป็นเพศแห่งการจับจ่ายกันจริงๆ ปล่อยพี่เขาเดินนำไป ไม่ทันตรูก็จะแยกกลับบ้านเลยแหละ

เดินตามหลังพี่สองคนเขาไปเรื่อยๆ เจอป้ายนี้เขียนไว้ที่ร้านอะไรซักอย่าง ตรงสุรวงศ์เนี่ย..ฝั่งตรงข้ามธนาคารกสิกรสุรวงศ์

เขาเขียนว่า " มิเตอร์น้ำอยู่นี่ เปิดได้ หินวางไว้ เปิดได้ ไม่ได้ลงปูน "

คงไม่ได้กลัวหายมั้ง คงแค่ กลัวจะเสียพื้นที่อันแสนจะแพง ของใจกลางเมืองหลวงแห่งประเทศไทย
ถ่ายรูปเก็บไว้.....

เอ้า...ทำไมล่ะ...นึกดูนะ...อาจจะเป็นผมคนแรกเลย ที่เปิดซิง ถ่ายรูปป้ายนี้ในโลกเนี่ย..ใครจะมาถ่ายล่ะ
แต่มันก็ครั้งเดียวในชีวิตนะ เจออะไรก็ถ่ายเก็บไว้ก่อน ชาร์ตแบตได้น่ะ มือถือเนี่ย

ปล...ลองหาคำว่า มิเตอร์เข้าไป...โหย..มนุษย์เรา มันจะอยากวัดอะไรกันมากมายขนาดนี้ฟะเนี่ย มีมิเตอร์ มากมายหลายแบบเลยทีเดียว

แต่จะว่าไปคนคิด ก็เก่งนะ..
แต่คนทำขายสิ...มันฉลาดนะ
เก่งกับฉลาด มันอย่างเดียวกันมั้ยเนี่ย..?






นางแบบ กับ นายแบบ ปากซอยภาวนา

07 Jan 2007 18.44
วันนี้วันอาทิตย์ เดินออกไปหาข้าวกินหน้าปากซอย เดินไปเรื่อยๆ กินจนเบื่อทุกร้านแล้วนะเนี่ย
มานั่งคิดดูว่า 1 ปีมี 365 วัน แต่มีร้านให้เราเลือกกิน ประมาณ 10-20 ร้าน หน้าปากซอย
มีอาหารคาว ขาย เฉลี่ยแล้วน่าจะสามารถถึง 365 ชนิดได้นะ
แต่ไม่อยากจะเชื่อว่า ตรูกินซ้ำซ้ำ ซากซาก มา เป็นเวลาปีกว่า สองปีแล้วเนี่ย

มอง ๆ ไป แกงเหลืองก็ไม่ค่อยกิน นู่นนี่ ตรูก็ไม่กิน
สุดท้าย ถ้าให้นับนี่ น่าจะนับได้เลยนะเนี่ย
สุดท้าย เหมือนจะเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายนะ...อืม แต่ตรูก็เลือกกินอยู่ดีนั่นแหละ..

ไปร้านบะหมี่เกี๊ยวอีกแระ ปากซอยภาวนา ร้านตั้งอยู่หน้า อาคารพาณิชย์ หรือว่า พานิชย์ ฟะเนี่ย คนไทยแท้ ๆ ยังเขียนไม่มั่นใจเลย
ในอาคารพานิชย์นั้น มีร้านขายเทป ซีดี (ไม่เถื่อน แต่ถูก) อยู่ แล้วมีป้ายโฆษณา เอ๊ะ ศศิกานต์ (น่าน คิดว่าชื่อนี้เขียนถูกนะเนี่ย..ไม่ต้องดูเลย ...ใครฟะ ญาติตรูก็ไม่ใช่ สะเหร่อ ไปจำอะไรใส่หัวไว้อีกแล้ว)

โปสเตอร์นางแบบเขานอนโพสต์ท่า บนพื้นหญ้าสีเขียว สวยชุ่มชื่น
ไล่สายตาตั้งแต่หน้า มาคอ มาอก มาเอว มาสะโพก มาขา มาปลายเท้านางแบบ ไล่ลงมาถึงพื้นหญ้า ไล่ลงมาใต้ โปสเตอร์
ก็ได้มองไล่สายตาอีกครั้ง แต่คราวนี้ทำด้วยความเร็ว ระดับเร็วที่สุดที่ลูกนัยน์ตา (ไม่ใช้ ลูกกะตา เพราะไม่ใช่ยาย และ ไม่ใช้ ลูกตา เพราะไม่ใช่น้าๆ แม่ ๆ ของเรา)
เร็วสุด ๆ ประหนึ่งว่า..เร็วเกือบได้ระดับความเร็วแสง

เพราะมีนายแบบไปนอน ไม่รู้ว่า คนบ้า หรือ ไร้ที่อยู่ หรือ เมา
คือ ที่ต้องมองเร็ว ๆ เพราะไม่ใช่ว่ารังเกียจอะไรมากมายหรอกครับ
กลัวคนอื่นจะเห็นสายตาเรา มองเขาด้วยความพินิจพิเคราะห์
แล้วจะคิดว่าเรามองคนอื่นที่ต่ำกว่า ด้วยการดูถูกเหยียดหยาม

ก็ไม่ต้องให้คนอื่นเห็นสายตาที่ไม่ดีอย่างนั้นจากเราจะดีกว่า
เราเองก็ต่ำ เราเองก็สูง ของอย่างนี้ ไม่สามารถสังเกตุได้จากการแต่งตัว

ต่ำที่ใจ อยู่สูงแค่ไหน มันก็ต่ำ ว่ามั้ยครับ

ปล...ไปหามาแล้ว ว่า พานิชย์ ไม่มีในDictionary ของ NECTEC แต่มีคำว่า พาณิชย์ นะครับ ถูกหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่ต่อไปก็จะใช้ พาณิชย์ แล้วล่ะครับ

พัทยาฮาเฮ

10 Dec 2006
Pattaya ฮาเฮ

เหมารถตู้ 1500 บาท 2 วัน 3000 บาท
ค่ากินค่าอยู่ หารกัน
ปุ้ม ปาร์ค แบงค์ เอฟ เต่า ตาล โบนัส
หมดกันคนละ 1000 บาท บวกลบ 100 เองมั้ง
ประหยัดดี
ไม่มีอะไรเลยนะรูปนี้ ถ่ายก็ไม่ชัด

แต่แบบว่า...มานั่งนึกว่า...หลังจากเรียนจบไป...จะมีเวลามาเจอหน้ากันซักกี่ครั้งนะ ยิ่งพอแต่งงาน มีลูกมีเต้า (อันนี้รู้สึกว่าฝ่ายสาว ๆ จะมีกันอยู่แล้ว) ก็ขอปีละครั้ง เจอกัน อาจจะพอไหวมั้ง

แป๊ปเดียววันเวลาก็ผ่านไปไว มาก ๆ ทำให้ต้องกลับมานั่งทบทวนชีวิตอีกทีว่า
"เราทำอะไรอยู่"
"แล้วเราสิ่งที่ทำอยู่ จะก่อให้เกิดอะไรกับเราต่อไป"
"แล้วสิ่งต่อไปอันนั้นน่ะ...เราอยากได้อย่างนั้นเหรอ"
"แล้วถ้าไม่อยากได้อย่างนั้น..."
"เราต้องทำอะไรตอนนี้ดีล่ะ"
"นั่งทำงาน ง๊อก ๆ ได้เงินเดือนมา ก็ละลายทรัพย์ให้ชนเดือนเหรอ"

คิดแล้วอย่าปลง
Life Management
วางแผนอนาคตซะ
นี่สงสัย ต้องไปปรึกษา ที่ปรึกษาทางการเงิน Financial Planner ซะแล้วม๊างง ตรู
อืม ๆ คิดเองได้..ไม่เป็นไร..วางแผน 3 ปี 5 ปี ซะ แล้วก็ 10 ปีต่อไปด้วยเลยท่าจะดี

Monday, January 29, 2007

หอสมุด ม.เกษตรเปิดกี่โมง?

12 November 2006

วันนี้มีไปอบรมเรื่อง....อะไรซักอย่าง...ที่อาคารวิทยบริการ Kasetsart University ศิษย์เก่า คุณอุตสาหกรรมเกษตร ครับผม...รู้สึกดีแปลก ๆ ที่ได้กลับมาเดินเล่นในมหาวิทยาลัย ที่เราได้เอาความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ชีวิต จากที่นี่ ออกไปแลกเงินมาเลี้ยงชีพ (ทั้งชีพตนเอง และ ชีพคนอื่นๆ ทั้งในครอบครัว และ มิตรสหาย)

นึกขึ้นมาได้ว่า วันหลังว่าง ๆ จะมานั่งอ่านหนังสือที่สำนักหอสมุดดีกว่า เลยเดินไปดู จากคณะวิทยาศาสตร์ ไปหอสมุด หลังกินข้าวกลางวันเสร็จ ..ปรากฏว่าปิดแฮะ..วันหยุด.. เลยจับภาพมาไว้ดู.ว่าเปิดวันไหน เวลาไหนบ้าง

...ผ่านไป จน 30 January 2007 ก็ยังไม่ได้แวะไปอยู่ดี..เพราะว่า..หกคะเมนตีลังกาอ่านอยู่ที่ห้อง สบายกว่าเป็นไหน ๆ ตื่นขึ้นมาก็คว้าหนังสือมาอ่านได้ทันที ขี้ตาเขรอะ ก็อ่านได้..ไม่ต้องเกรงใจใคร...

ฮาจิบังราเมน : ชื่อเมนู.โดนใจ

9 Nov 2006 ,
ไปกิน Hachi Ban Ramen กับพี่นัท พี่แอ้นท์ ตรงชั้นใต้ดินของ Central Silom Complex ระหว่างยืนรอ คือไม่ได้ว่าจะลามก อะไรเลยนะ แต่ก็แค่มองหาเมนู ถ้าถึงคิวได้นั่ง จะได้เลือกไว้ก่อนเลย จะได้กินเร็ว ๆ 18.53 น. แล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเย็น นี่ถ้าเป็นอยู่บ้านนอกกับแม่ที่นครสวรรค์ ป่านนี้อาบน้ำอาบท่า จะเข้านอนแล้วนะเนี่ย...ดูเอาเองแล้วกันครับ ว่าชื่อเมนูอะไรอ่ะ .....ไม่ได้ลามกนะเอ้า...
ปล. Stew Duck แปลว่า เป็ดตุ๋น